พรีเมียร์ลีกค่ำวันนี้มีบิ๊กแมตช์น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อ เชลซี ของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด เตรียมเปิดศึกลอนดอน ดาร์บี้ แมตช์ ต้อนรับการมาเยือนของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ของ โชเซ่ มูรินโญ่ แน่นอนว่ากุนซือของทั้งสองทีมรู้จักกันเป็นอย่างดี ยิ่งไปกว่านั้นนอกจากศักดิ์ศรีแล้วอันดับตารางก็สำคัญไม่แพ้กัน ดังนั้นเรามาลั่นกลองรบก่อนเกมเดือดค่ำนี้ด้วยประเด็นน่าสนใจก่อนเกมกัน
1.ลูกศิษย์ปะทะอาจารย์ยกสอง!
นอกจากความเป็นลอนดอนดาร์บี้ แมตช์ที่ทำให้เกมนี้สนุกขึ้นแล้ว ไฮไลท์อีกเรื่องหนึ่งคือการปะทะกันของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด กับ โชเซ่ มูรินโญ่ ซึ่งเคยเป็นลูกทีมและกุนซือสมัยอยู่เชลซีด้วยกัน โดยทั้งคู่เจอกันมาแล้วในช่วงบ็อกซิ่ง เดย์ซึ่ง แลมพาร์ด เป็นฝ่ายบุกชนะทีมของ มูรินโญ่ ถึงรัง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้ยม โดยเกมนั้น วิลเลี่ยน ซัดประตูสุดสวยตั้งแต่นาทีที่ 12 ก่อนจะมายิงอีกหนึ่งประตูปิดกล่องจากลูกจุดโทษที่ เปาโล กาซซานิก้า ไปทำฟาวล์ใส่ มาร์กอส อลอนโซ่ นอกจากนี้ ซน ฮึง-มิน ยังถูกใบแดงจากการไปถีบใส่ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ อีกต่างหาก ถือเป็นเกมที่ค่อนข้างเดือดพอสมควร ดังนั้นคืนนี้ยกที่สองการันตีความมันส์ได้เลย!
2.ถึงเวลาชิรูด์เสียที
กลายเป็นคำถามที่แฟนเชลซีกำลังสงสัยเมื่อ แฟร้งค์ แลมพาร์ด เมินที่จะใช้งาน โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ลงเล่นกองหน้าทั้งที่ มิตชี่ บาตชูอายี่ ทำผลงานย่ำแย่ในหลายนัดที่ผ่านมา การขาดหายไปของ แทมมี่ อบราฮัม ส่งผลกระทบกับทีมเป็นอย่างมากและ บาตชูอายี่ ก็ไม่สามารถเป็นตัวแทนของ อบราฮัม ได้ เขาทิ้งโอกาสทองมากมายหลายครั้ง บางนัด เชลซี เอาตัวรอดมาได้ทั้งที่ บาตชูอายี่ เล่นไม่ดี แต่ก็มีบางนัดที่การยิงนกตกปลาของเขาส่งผลทำให้ทีมพ่ายแพ้เช่นเกมล่าสุดที่เจอกับ แมนฯยูไนเต็ด ขณะที่ ชิรูด์ ลงมาไม่กี่นาทีก็ทำผลงานดีกว่า บาตชูอายี่ เสียอีก เสียงกดดันจากแฟนบอลมีมากขึ้นเรื่อยๆ ต้องมารอดูกันว่า แลมพาร์ด จะดร็อป บาตชูอายี่ คืนนี้หรือไม่
3.ซน,เคน หายทำเจ๊ง
การที่ แฮร์รี่ เคน บาดเจ็บยาวถือเป็นข่าวร้ายของ สเปอร์ส เป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามทีมยังมี ซน ฮึง-มิน เป็นที่พึ่งพาได้ซึ่งหลังจาก เคน พักรักษาอาการบาดเจ็บ กองหน้าชาวเกาหลีใต้สามารถพาทีมเก็บชัย 3 จาก 5 นัด โดยเฉพาะในเกม แอสตัน วิลล่า ที่เขาเหมาสองประตูพาทีมเก็บชัยสุดดราม่า ทว่า “ไก่เดือยทอง” โชคร้ายเหลือเกินเมื่อ ซน เป็นอันต้องปิดเทอมยาวไปด้วยอีกคนเนื่องจากกระดูกแขนแตกทำให้ สเปอร์ส แทบไม่มีกองหน้าให้เหลือใช้งานแล้ว
แค่สถิติก็ยิ่งตอกย้ำว่าสเปอร์สขาดทั้งสองไม่ได้เนื่องจากพวกเขาถือเป็นคู่หูที่มีค่าเฉลี่ยการทำประตูต่อ 90 นาที ดีที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกในกรณีที่ทั้งคู่ลงสนามร่วมกัน หลังจากค่าเฉลี่ยการทำประตูของพวกเขาอยู่ที่ 1.29 ลูกต่อ 90 นาที
ในเกม ชปล. ที่ผ่านมา อาการบาดเจ็บของทั้งสองกองหน้าสเปอร์สส่งผลกระทบกับทีมชัดเจนมากจนทำให้ทีมพ่ายแพ้ต่อ ไลป์ซิก คืนนี้ มูรินโญ่ จะแก้ปัญหานี้อย่างไรคงต้องรอดูกัน
4.คาบ้านมีสิทธิ์อันดับรูด
ตอนนี้การลุ้นท็อปโฟร์สนุกขึ้นมากหลัง แมนฯยูไนเต็ด บุกชนะ เชลซี เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เกมค่ำวันนี้จะเป็นการปะทะกันของทีมอันดับ 4 และอันดับ 5 ซึ่งมีแต้มห่างกันแค่แต้มเดียวเท่านั้น ศักดิ์ศรีว่าสำคัญแล้วแต่ ชปล. สำคัญกว่า หาก “สิงห์บลูส์” เก็บชัยชนะได้สำเร็จจะทำแต้มหนี สปอร์ส และผู้ตามคนอื่นด้วย
อย่างไรก็ตามหาก เชลซี พ่ายแพ้คาบ้านอีกนัดอาจจะทำให้พวกเขาอันดับตกรูดเลยก็ว่าได้เนื่องจาก เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด อันดับที่ 6 มีคิวเปิดบ้านพบ ไบรท์ตัน ในคืนนี้ซึ่งถ้าหาก เชฟยูฯ ชนะ จะทำให้ เชลซี ตกลงไปที่ 6 ทันที ยิ่งไปกว่านั้นในวันอาทิตย์หาก แมนฯยูไนเต็ด ซึ่งอยู่อันดับที่ 7 เอาชนะ วัตฟอร์ด ได้สำเร็จ เชลซี จะตกลงมาถึงอันดับ 7 เลยทีเดียว เห็นแบบนี้แล้วลูกทีมของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด คงต้องวิ่งลืมตายเป็นแน่แท้
5.สิงห์ข่มไก่แม้ตอนนี้ฟอร์มแย่
ปิดท้ายกันด้วยสถิติที่น่าสนใจในเกมนี้ โดย เชลซี เก็บชัยชนะเหนือ สเปอร์ส ในเกมลีกสองนัดหลังสุดซึ่งครั้งสุดท้ายที่ทีมชนะ 3 นัดรวดเกิดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคมปี 2006 โดยตอนนั้นคนที่คุมเชลซีคือมูรินโญ่นั่นเอง นอกจากนี้ สเปอร์ส ยังชนะแค่นัดเดียวเมื่อมาเยือน สแตมฟอร์ด บริดจ์ 33 นัดหลังสุดในทุกรายการ (เสมอ 11 แพ้ 21) โดยชัยชนะนี้เกิดขึ้นเดือนเมษายน 2018
อย่างไรก็ตามฤดูกาลนี้ เชลซี พ่ายแพ้คาบ้านในทุกรายการมา 7 เกมแล้ว ครั้งสุดท้ายที่พวกเขาพ่ายแพ้มากกว่านี้คือฤดูกาล 1985-86 เลยทีเดียว (แพ้ 8 นัด) นอกจากนี้ เชลซี ยังไม่ชนะใครในเกมลีกมา 4 นัดติดต่อกัน (เสมอ 2 แพ้ 2) ครั้งสุดท้ายที่ไร้ชัยนานกว่านี้คือปี 2017 ซึ่งไม่ชนะ 7 เกมติดต่อกัน
ติดตามข่าวสารฟุตบอลได้ที่ BUAK 20.com
สนับสนุนโดยเว็บไซค์ ฟุตบอลอันดับ1 ufa88s.com