แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พลาดโอกาสทำแต้มไล่จี้ เชลซี ในการลุ้นอันดับท็อปโฟร์ หลังจากทำได้เพียงแค่บุกไปเสมอ เอฟเวอร์ตัน 1-1 ที่สนามกูดิสัน พาร์ค ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา แถมช่วงท้ายเกมยังมีดราม่าให้พูดถึงกันอีกต่างหาก
เกมนี้เปิดหัวมาก็เอาซะงงทั้งโลก เมื่อ ดาบิด เด เคอา นายด่านชาวสแปนิช ทำผิดพลาดมหันต์จากจังหวะเตะบอลไปโดนเท้าของ โดมินิค คัลเวิร์ต เลวิน เข้าประตูหน้าตาเฉย แต่กระนั้น “ผีแดง” ได้เห็นเทพคนใหม่ของสโมสร เมื่อ บรูโน่ แฟร์นันด์ส โชว์ความสุดยอดซัดไกลเข้าประตูตีเสมอ
ขณะเดียวกันในช่วงทดเจ็บเจ้าบ้านได้ประตูชัยจาก คัลเวิร์ต เลวิน แต่ท่านเปาประจำเกมเช็ควีเออาร์แล้ว ยืนยันว่าลูกนี้ไม่ได้ประตูเนื่องจาก กิลฟี ซิกูร์ดส์สัน อยู่ในจังหวะล้ำหน้า และมีส่วนทำให้ เด เคอา เสียสมาธิ
1. เด เคอา พลาดมหันต์
แฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มักจะอุ่นใจเมื่อเห็น ดาบิด เด เคอา ยืนตระหง่านเฝ้าเสาให้กับทีม แต่ในช่วงหลังๆ ดูเหมือน นายด่านชาวสแปนิช มักจะออกลูกผิดพลาดซึ่งมีผลทำให้ทีมต้องเสียประตู และเกมนี้ก็เป็นอีกครั้งที่เจ้าตัวทำผิดพลาดแบบไม่น่าจะเกิดขึ้น
เอฟเวอร์ตัน ได้ประตูขึ้นนำแบบน่าเหลือเชื่อเพียงแค่ 3 นาที เมื่อ เด เคอา ไม่รู้มัวคิดอะไรอยู่ไม่ยอมเตะบอลออกไป ในขณะที่ โดมินิค คัลเวิร์ต เลวิน รีบวิ่งเข้ามากดดัน ก่อนที่เขาจะเตะบอลขึ้น แต่โดน คัลเวิร์ต เลวิน ใช้เท้าดักไว้บอล สุดท้ายบอลกระดอนเข้าประตูไปหน้าตาเฉย
เดชะบุญที่ความผิดพลาดดังกล่าวไม่สร้างความเสียหาย เพราะทีมได้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส กอบกู้สถานการณ์ ไม่งั้นเกมนี้บรรดาสาวก “เร้ด อาร์มี่” คงเซ็งสุดๆ แต่การได้เพียง 1 แต้มในแมตช์นี้ ก็ถือว่าเสียหายอย่างมาก ไม่งั้น รอย คีน ตำนานกองกลาง “ผีแดง” ถึงขั้นแสดงความเห็นอยากจะฆ่า นายด่านทีมชาติสเปน หลังจบเกมเลยทีเดียว
ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นความผิดพลาดแบบนี้ถือเป็นครั้งที่ 3 ของ เด เคอา ในฤดูกาลนี้ ยิ่งไปกว่านั้น อดีตโกล “ตราหมี” แอตเลติโก มาดริด ทำผิดพลาดจนเป็นเหตุให้ทีมเสียประตูไปแล้ว 7 ครั้งในเกมพรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่ต้นฤดูกาลที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน โดยเป็นจำนวนเท่ากับ มาร์ติน ดูบราฟก้า และ แบรนด์ เลโน่
2. แฟร์นันด์ส ยิ่งเล่นยิ่งสำคัญ
บรูโน่ แฟร์นันด์ส กลายเป็นขวัญใจคนใหม่ของสาวก ปีศาจแดง” ไปเรียบร้อยแล้ว ทั้งๆ ที่เจ้าตัวเพิ่งจะย้ายมาเล่นกับทีมช่วงเส้นตายตลาดซื้อขายนักเตะรอบ 2 เดือนมกราคมที่ผ่านมา เพราะผลงานของเขาสร้างความแตกต่างให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างแท้จริง
นับตั้งแต่ที่ สตาร์ชาวโปรตุกีส ลงเล่นให้กับทีม เขาสามารถสร้างสรรค์เกมให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้มากมาย และสร้างโอกาสให้กับต้นสังกัดได้หลายต่อหลายครั้งไม่ว่าจะเป็นการเล่นแบบโอเพ่นเพลย์ และลูกตั้งแต่ แถมยังมีทีเด็ดในเรื่องการยิงฟรีคิก กับจุดโทษด้วย
แน่นอนว่าฟอร์มที่น่าตื่นตาตื่นใจแบบนี้แทบไม่มีเลยในฤดูกาลนี้ ต้องยอมรับว่าการมาของ แฟร์นันด์ส ช่วยยกระดับให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างแท้จริง และประตูที่เขายิงตีเสมอให้กับทีม ยิ่งเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงความเก่งฉกาจของนักเตะรายนี้อย่างแท้จริง
ตอนนี้ แฟร์นันด์ส ลงสนามให้กับต้นสังกัด 3 แมตช์ติดต่อกัน โดยทั้งยิงประตู และแอสซิสต์ แน่นอนว่าแฟนบอลแมนฯ ยูฯ อาจจะเริ่มมองเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์จากฟอร์มของนักเตะรายนี้ น่าเสียดายตรงที่บอร์ดบริหารไม่ยอมทุ่มเงินตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ เพราะหากได้เขามาเล่นตั้งแต่ต้นซีซั่น ผลงานของ “เร้ด เดวิลส์” อาจจะน่าสนใจยิ่งกว่านี้
3. พิคฟอร์ดมีทั้งดีและร้าย
ไม่รู้จะเรียกว่าเป็นความผิดพลาดของ จอร์แดน พิคฟอร์ด หรือเปล่า จากจังหวะที่เขาเสียประตู เพราะลูกนั้นต้องยอมรับว่า แฟร์นันด์ส ซัดไกลได้คมกริบแถมยังติดไซด์ก้อยอีกต่างหาก แต่บางคนก็มองว่าเจ้าตัวล้มช้าเกินไปทำให้บอลลอดตัวเขาไปหน้าตาเฉย
เกมแมตช์ แกเร็ธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ มานั่งชมเกมด้วย และ พิคฟอร์ด คงตั้งใจเป็นพิเศษ เพราะอยากจะสร้างความประทับใจให้กับนายใหญ่ “สิงโตคำราม” เพื่อโอกาสยึดมือ 1 ทีมชาติไปลุยศึกยูโร 2020 แต่จากการเสียประตูดังกล่าว อาจทำให้เจ้าตัวเสียราคาไปพอสมควร
อย่างไรก็ตาม แมตช์นี้ก็ไม่ใช่ว่า พิคฟอร์ด จะเล่นย่ำแย่อะไรมากนัก โดยเฉพาะในช่วงท้ายเกมเขาโชว์ความเหนียวหนึบด้วยการโชว์ดับเบิ้ลซูเปอร์เซฟ ในจังหวะที่ แฟร์นันด์ส กับ โอเดียน อิกาโล่ ยิงประตู ฉะนั้นผลงานแบบนี้น่าจะทำให้ เซาธ์เกต คงยิ้มพอใจในระดับนึงเลยทีเดียว
4. วีเออาร์ช่วยชีวิตแมนฯ ยูไนเต็ด
ต้องยอมรับว่า วีเออาร์ มีส่วนสำคัญมากๆ ในเกมพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ และในแมตช์ระหว่าง เอฟเวอร์ตัน กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เทคโนโลยีช่วยตัดสิน ทำให้ “ปีศาจแดง” บุกมาแบ่งแต้มได้อย่างหวุดหวิด เพราะหากไม่ได้ระบบนี้ มีความเป็นไปได้ที่เจ้าบ้านจะได้ 3 คะแนน
“ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เกือบจะคว้าชัย เนื่องจากในช่วงทดเวลาบาดเจ็บเจ้าบ้านได้ประตูขึ้นนำเมื่อ คัลเวิร์ต เลวิน ยิงบอลไปแฉลบ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ เข้าประตูไป แต่ คริส คาวานาห์ ผู้ตัดสินเช็ควีเออาร์แล้วชี้ว่า กิลฟี ซิกูร์ดส์สัน อยู่ในตำแหน่งลำหน้าจากจังหวะนั่งขวางหน้าปากประตูแม้หุบขาหลบก็ตาม
จังหวะดังกล่าว ดาวเตะทีมชาติไอซ์แลนด์ มีส่วนกับเกมแม้ว่าบอลจะไม่ได้สัมผัสตัวเขาก่อนที่จะเข้าไปซุกก้นตาข่ายก็ตาม แต่จังหวะที่ขยับขาเพื่อหลบบอลแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่ามีส่วนกับการเล่น ซึ่งมีส่งผลทำให้ ดาบิด เด เคอา เสียสมาธิ
ในกรณีหากไม่มี วีเออาร์ มีความเป็นไปได้เช่นกันที่ทีมของกุนซือคาร์โล อันเชลอตติ อาจจะได้ประตูดังกล่าว และนำไปสู่การคว้าชัยชนะ ฉะนั้นเทคโนโลยีนี้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามีส่วนสำคัญมากๆ กับการตัดสินในวงการฟุตบอล และทำให้ แมนฯ ยูฯ ได้ 1 คะแนนเพื่อลุ้นทำอันดับท็อปโฟร์ต่อไป
5. พลาดโอกาสหายใจรดต้นคอ เชลซี
ก่อนเกมนี้ เชลซี ทำได้แค่บุกเสมอ บอร์นมัธ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ฉะนั้นทั้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เอฟเวอร์ตัน คงมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการที่จะเก็บชัยชนะแมตช์นี้ให้ได้ เพื่อโอกาสในการเบียดขึ้นไปแย่งอันดันท็อปโฟร์ ซึ่งเป็นโควตาสุดท้ายไปลุยศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
ถ้าหาก “ปีศาจแดง” ชนะเจ้าบ้านในเกมนี้จะทำให้พวกเขาตามหลังทีมของกุนซือแฟร้งค์ แลมพาร์ด เพียงแค่ 1 คะแนนเท่านั้น ขณะที่ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” จะกระโดดขึ้นไปอยู่อันดับ 9 ตามหลัง สเปอร์ส ที่แพ้ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ เพียงแค่แต้มเดียวเท่านั้น
จากผลเสมอในเกมนี้ทำให้สถานการณ์ต่างๆ ยังคงต้องลุ้นกันต่อไป แต่ที่น่ากลัวก็คือ วูล์ฟส์ ที่ขยับทำแต้ม 42 คะแนนเท่ากับ แมนฯ ยูไนเต็ด และทั้งสองทีมตามหลัง “สิงโตน้ำเงินคราม 3 คะแนน ขณะที่ เอฟเวอร์ตัน ตามห่างไกลถึง 8 แต้มเลยทีเดียว
แน่นอนว่าตอนนี้การลุ้นโควตาไปลุย แชมเปี้ยนส์ ลีก มีความเข้มข้นมากๆ เพราะอย่าลืมว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งปัจจุบันรั้งอันดับ 2 ในตารางลีก เพิ่งโดนสั่งแบนห้ามเล่นเกมที่ ยูฟ่า จัดเป็นเวลา 2 ปี และหา “เรือใบสีฟ้า” อุทธรณ์ไม่สำเร็จ ทีมที่ได้อันดับ 5 จะได้รับส้มหล่นไปลุยถ้วยใบโตยุโรปแทน
ติดต่มข่าวสารฟุตบอลได้ที่ BUAK 20.com
สนับสนุนโดยเว็บไซค์ ฟุตบอลอันดับ1 ufa88s.com