หลังจากสับไกส่งบอลเข้าไปกองสู่ก้นตาข่ายในช่วงต่อเวลานาทีที่ 99 ที่สนามคาลิฟา อินเตอร์เนชั่นแนล สเตเดี้ยม กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์
ซึ่งเป็นประตูชัยให้ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ปลิดชีพ ฟลาเมงโก้ 1-0 กระชากโทรฟี่ศึกฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลกกลับไปประดับตู้โชว์ที่แอนฟิลด์ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
ไม่เพียงแต่เสียงเฮของเดอะค็อปทั่วโลกจะดังสนั่นขึ้นพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย แต่แฟนบอลยังได้เห็นรอยสักทั่วร่างกายของเพชฌฆาตเลือดแซมบ้า โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่
ฉับพลันที่ซัลโวประตูอันล้ำค่านี้ได้ ฟีร์มิโน่ ระเบิดอารมณ์ด้วยการวิ่งแหกปากตะโกนลั่น พร้อมกับถอดเสื้อดีใจโดยไม่สนว่าจะโดนใบเหลืองจากผู้ตัดสินเป็นรางวัล
และนั่นทำให้ชาวโลกได้เห็นสารพัดรอยสักที่มีความหมายมากมายต่อชีวิตของผู้ชายคนนี้
รอยสักแรกที่เห็นได้ชัดคือข้อความบริเวณกระดูกไหปลาร้า ซึ่งเป็นประโยคภาษากรีก มีความหมายว่า “พระเจ้าทรงซื่อสัตย์” นอกจากนี้ยังมีคำว่า Deus
ซึ่งเป็นภาษาโปรตุกีสอยู่ที่บริเวณต้นคอ แปลว่า “พระเจ้า” และคำว่า Blessed อยู่บริเวณหน้าท้อง แปลว่า “ได้รับพร”
ส่วนบริเวณหน้าอกมีชื่อของลูกสาวคนแรก Valentina Firmino และบริเวณบ่าเป็นชื่อของลูกสาวคนที่สอง Bella Firmino
ขณะที่ท่อนแขนด้านขวาเขาสักรูปใบหน้าของคุณแม่และคุณพ่อ ซึ่งครั้งหนึ่งพวกเขาเคยห้ามลูกชายคนนี้ไม่ให้ออกไปเล่นฟุตบอลนอกบ้าน
เนื่องจากกลัวว่าลูกชายจะออกนอกลู่นอกทางไปหาพวกแก๊งวัยรุ่นมั่วสุมยาเสพติดหรือก่ออาชญากรรม
แต่สุดท้ายฟีร์มิโน่ก็มุ่งมั่นในเส้นทางสายลูกหนังอย่างเต็มที่ โดยมี “ฟุตบอล” เป็นแสงสว่างนำทางชีวิต ราวกับเปลวเทียนให้แสง รามคําแหงให้ทาง
คุณแม่มาเรียน่า ย้อนถึงวีรกรรมของลูกชายว่า “เขาจะตื่นแต่เช้ามากๆ เพื่อออกไปเล่นฟุตบอลในขณะที่ฉันนอนหลับอยู่ เขาจะเงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้และกระโดดข้ามรั้วบ้านออกไป”
“ฉันไม่อยากให้โรแบร์โต้ออกไปเล่นฟุตบอลข้างนอกเลย เพราะสังคมข้างถนนมันอันตรายมาก แต่ก็มีคนบอกว่าปล่อยให้เขาออกไปเล่นเถอะ เขาเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์”
นอกจากนี้บริเวณข้อมือขวามีรอยสักรูปดอกกุหลาบสื่อถึงความรัก รูปใบโคลเวอร์ 4 แฉกสื่อถึงความโชคดี และบริเวณนิ้วมีเลข 1991 ซึ่งก็คือปีที่เขาเกิด
ส่วนต้นแขนขวาเป็นรูปของภรรยาสุดที่เลิฟ “ลาริสซ่า เปเรยร่า” ซึ่งทั้งคู่เข้าพิธีวิวาห์กันไปเมื่อเดือน มิ.ย. 2017
นอกจากรอยสักด้านหน้าแล้ว “แผ่นหลัง” ของฟีร์มิโน่ก็ยังคงเต็มไปด้วยศิลปะบนผิวหนังเช่นกัน โดยแผ่นหลังซีกซ้ายสักเป็นรูปครอบครัว ประกอบด้วยตัวเขา ภรรยา และลูกสาวสองคน
ส่วนแผ่นหลังซีกขวาเพิ่งให้ช่างสักลงเข็มมาหมาดๆ โดยเป็นรูปที่เขาชูโทรฟี่ถ้วยแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก หลังจากทีมหงส์แดงผงาดคว้าแชมป์ยุโรปเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
ไม่แน่ว่าการถอดเสื้อฉลองประตูครั้งต่อไปของฟีร์มิโน่ แฟนบอลอาจได้เห็นรอยสักที่เกี่ยวข้องกับการสยายปีกครองแชมป์สโมสรโลกได้อย่างยิ่งใหญ่ของลิเวอร์พูล
ยิ่งไปกว่านั้น หากฤดูกาลนี้พลพรรค “เร้ดแมชชีน” ยุติการรอคอยแชมป์ลีก 30 ปีได้สำเร็จล่ะก็ ฟันธงได้เลยว่าโมเมนต์การฉลองแชมป์พรีเมียร์ลีกจะต้องถูกจารึกไว้บนเรือนร่างของดาวเตะผู้พิสมัยศิลปะการลงหมึกบนเรือนร่างคนนี้แน่นอน