เรียกได้ว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิท-19 กำลังเป็นกระแสที่ผู้คนต้องให้ความสนใจกันเป็นอย่างมาก เพราะการเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเช่นนี้ ย่อมส่งผลกระทบและสร้างปัญหาในทุก ๆ ด้านไม่เว้นแม้แต่วงการลูกหนังทั้งในระดับโลกและในระดับภายในประเทศอย่างประเทศไทยของเรานั้นเอง
ปัญหาเหล่านี้ส่งผลกระทบมาถึงวงการฟุตบอลทั้งในและต่างประเทศได้ก็เพราะว่า ในทุก ๆ การแข่งขันคือการมารวมตัวกันของกลุ่มคนจำนวนมาก ไม่ว่าจะทั้งกองเชียร์จำนวนมากที่ต่างมาให้กำลังใจทีมรักของตนเอง และร่วมไปถึงเหล่าผู้เล่นหรือนักเตะที่มีโอกาศในการเดินไปแข่งขันนอกประเทศของตนเองหรือนอกพื้นที่ของสโมสรของตน แล้วทุก ๆ คนยังต้องมาอยู่ในสถานที่มีการจำกัดพื้นที่เพื่อที่จะได้รับชมการแข่งขัน พูดง่าย ๆ ว่าทุกการกระทำไม่ว่าจะใครก็ตามแต่ก็มีแต่จะเป็นการเพิ่มระดับปัจจัยเสี่ยง ที่จะนำมาสู้การแพร่ระบาดของเชื้อโรค โควิท-19 ได้ทั้งนั้น
โควิท-19 ทำให้ทั่วโลกต่างต้องเลื่อนหรือยกเลิกการแข่งขันหรือกิจกรรมต่าง ๆ และแน่นอนว่าการแข่งขันฟุตบอลหลาย ๆ รายการก็ไม่รอดที่จะถูกเลื่อนหรือยกเลิกไป เช่น เจลีก ของประเทศญี่ปุ่นที่จำต้องเลื่อนออกไปถึง วันที่ 15 มีนาคม และยังไม่มีท่าทีแน่นอนว่าจะจัดการแข่งขันได้ต่อในวันเวลาที่กำหนดได้หรือไม่ และยังมี เคลีก จากประเทศเกาหลีใต้ที่ได้ประกาศเลื่อนการแข่งขันออกไปจนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศจะสงบลง เรียกได้ว่าคนเกาหลีต้องอดดูบอลกันยาว ๆ ไปเลย หรืออย่างลีก กัลโช่ เซเรียอา จากฝั่งยุโรปที่มีการเลื่อนการแข่งขันออกไป 4 คู่ และแถมเมื่อถึงเวลาแข่งขันจริง ๆ ก็ต้องเล่นกันโดยไม่มีแฟนบอลหรือกองเชียร์อยู่ข้างสนามเลยซักคน
จานนี่ อินฟานติโน่ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ออกมายอมรับว่าสร้างความกังวลเป็นอย่างมากต่อการตัดสินใจจัดการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2020 ที่กำลังมาถึงในอีก4เดือนข้างหน้า ซึ่งการแข่งขันโปรแกรมนีเป็นการแข่งขันใน 12 เมืองใหญ่ของทวีปยุโรป ซึ่งภายใน12เมืองหรือประเทศนั้นบางประเทศก็มีข่าวการแพร่ระบาดร่วมถึงผู้เสียชีวิตจาก โควิท-19 แต่ท้ายที่สุดทางฟีฟ่าก็ได้ประกาศมาแล้วว่า จะเริ่มการแข่งขันนัดแรกในวันที่ 12 มิถุนายน แน่ ๆ
ส่วนทางประเทศไทยนั้น พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง (CEO ของไทยลีก) ได้ออกมากล่าวว่า ฟุตบอลไทยลีกจำเป็นต้องมีมาตรการที่เข้มงวด และปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดในระดับเดียวกับมาตรฐานโลก โดยสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยได้แบ่งออกมาเป็น 3 ระดับ โดยระดับแรกคือ การคัดกรอง ที่จะมีการรณรงค์ให้ผู้ที่อยู่ในการจัดการแข่งขันใส่หน้ากากอนามัย และวางจุดบริการเจลล้างมือฆ่าเชื้อโรคอย่างทั่วถึง ร่วมถึงมีการทำความสะอาดในบริเวณที่มีการสัมผัสกันเป็นประจำอย่าง ลูกบิดประตู หรือ ราวบันไดต่าง ๆ
และในระดับที่สองถัดมาคือ แข่งขันแบบปิด ที่ทางสถานที่จัดการแข่งขันจะอนุญาติให้เฉพาะเจ้าหน้าที่หรือสื่อมวลชนที่มีความจำเป็นต่อการอำนวยความสะดวกในการแข่งขัน รวมถึงการช่วยถ่ายทอดสดการแข่งขันเท่านั้น และระดับสุดท้ายที่เป็นเหมือนไม้ตายที่จำใจต้องบังคับใช้ คือ เลื่อนการแข่งขันออกไป โดยจะบังคับใช้เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของกรมควบคุมโรคของกระทรวงสาธาณสุข ตามแต่สถาการณ์ของการแผร่ระบาดของเชื้อ โควิท-19 หากเลวร้ายสุดๆก็จะมีการออกคำสั่งยกเลิกการแข่งขันทั้งโปรแกรมที่มีขอบเขตเวลาการขัดอยู่ในช่วงการอพร่ระบาดนั้นเอง
ก็เอาเป็นว่าทุก ๆ คนก็ต่างอยากจะรับชมการแข่งขันไม่ว่าจะเพื่อความบันเทิงหรือเพื่อการลงทุนอะไรก็ตาม แต่เราต้องยอมรับว่าการแข่งขันฟุตบอลนั้นสำหรับบางคนก็เป็นเหมือนทั้งชีวิตของพวกเขา แต่ด้วยการแพร่ระบาดของเชื้อโรคร้ายอย่าง โควิท-19 นั้นทุกคนก็ต้องหันมาให้ความสำคัญกับสุขภาพของตัวเองด้วย เพราะในส่วนของการจัดการแข่งขันนั้นทางกลุ่มผู้บริหารหรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขันนั้นก็ต้องมารับมือกับการสูญเสียเม็ดเงินในการเตรียมการแข่งขันมาอย่างมากมาย ที่ก็ถูกเลื่อนด้วยความจำเป็นตามนโยบายของรัฐที่ออกมาตรการเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด
เพราะฉะนั้นหวังว่าทุกคนจะให้ความร่วมกับมาตรการของทางรัฐและจำกัดความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นกับตัวเองหรือคนที่ทุกคนรัก และถ้าทุกคนพร้อมใจกันช่วยรับมือกับการแพร่ระบาดที่เกิดขึ้น ไม่แน่สถานการณ์อาจจะบรรเทาลงเร็วกว่าที่คาด และจะได้กลับมาสนุกกับเกมการแข่งขันฟุตบอลกันได้อย่างเต็มที่ครับ
#โควิท19 #ยูโร2020 #ฟีฟ่า