ซลาตัน อิบราฮิโมวิช เป็นหนึ่งในนักเตะไม่กี่คนบนโลก ที่จะมีฝีเท้ายอดเยี่ยม โดยที่ผ่านมาเขาผ่านการค้าแข้งกับหลายทีมดังมามากมาย และร่วมคว้าแชมป์กับทีมเหล่านั้นมากมาย
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่นักเตะที่จะให้ความภักดีกับสโมสรใดสโมสรหนึ่งนานเกิน 5 ปี แต่ถ้าสังเกตดี ๆ เราจะเห็นได้ว่าเมื่อตัวเขานั้น ได้ย้ายไปอยู่ทีมใดก็ตามเขาก็มักจะกลายเป็นนักเตะที่ทรงอิทธิพลต่อทีมหรือต่อสโมสรที่ไปอยู่ด้วยตลอดมา โดยวันนี้เราจึงมานำเสนอแง่มุมที่สลาตันนั้นถึงได้กลายเป็นนักเตะผู้ที่ทรงอิทธิพลคนหนึ่งบนโลก
ความมั่นใจในตัวเอง สูง!!
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ซลาตัน อิบราฮิโมวิช เป็นหนึ่งในนักเตะที่มีบุคลิกที่ชัดเจนคนหนึ่งของโลก เขาเป็นผู้เล่นที่เต็มไปด้วยความมั่นอกมั่นใจในตัวเอง ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ติดตัวของเขามาตั้งแต่ยังเล่นฟุตบอลในวัยละอ่อน นั่นก็เป็นเพราะว่า ซลาตัน เป็นนักเตะที่มีชื่อเสียงมาตั้งแต่วัยรุ่น ด้วยพรสวรรค์ที่โดดเด่น จนไต่เต้าขึ้นมาเล่นกีบทีมชุดใหญ่ของทีม มัลโม ตั้งแต่อายุ 18 ปีเมื่อปี 1999 และกลายเป็นนักเตะดาวรุ่งที่มากไปด้วยพรสวรรค์ ที่น่าจับตามองในประเทศของเขามาตั้งแต่ตอนนั้น
โดยมีครั้งนึ่งในช่วงที่เขานั้นได้ย้ายออกมาจากมัลโม จน อาร์เซน เวนเกอร์ สนใจที่จะดึกเขาให้มาอยู่ในโปรแกรมเด็กปั่นของตนเอง แต่ก็ถูก ซลาตัน ปฏิเสธที่จะย้ายไปเล่นให้ อาร์เซนอล หลังจากสโมสรอยากให้เขาได้เข้ารับการทดสอบฝีเท้าเสียก่อน ทำให้ตัวซลาตันตัดสินใจเดินไปลอนดอนเพื่อนัดเจอกับ อาร์เซน เวนเกอร์ แต่ทว่าเมื่อเจอหน้านายใหญ่แห่ง The Gunner ว่า “ผมไม่ทดสอบฝีเท้า ไม่ว่าคุณจะพาผมไปหรือไม่ ผมไม่ไปที่นั่นให้เสียเวลาหรอก” เรียกได้ว่ามั่นใจชนิดไม่ไว้หน้าใครๆเลย
ไม่รู้ไม่ชี้!! ไม่สนและไม่แคร์
นอกจากเรื่องฝีเท้าที่ยอดเยี่ยมหาคนมาเปรียบได้ยากแล้ว อีกบุคลิกหนึ่งที่ทำให้ ซลาตัน มีชื่อเสียงคือความเป็นคนเปิดเผยอะไรตรงๆและมีความทะนงตนสูงมาก โดยเขามักจะตอบคำถามกับสื่อโดยไม่แคร์ว่าสิ่งที่เขาได้พูดออกไปจะทำให้คนรอบข้างรู้สึกไม่ดีกับตัวเขาก็ตาม ถึงแม้ในอีกมุมหนึ่งจะมีคนชอบก็ตาม แต่ในขณะเดียวกันนั้น อีกมุมหนึ่งเขามักจะตกเป็นเป้าโจมตีอยู่เสมอ นอกจากนี้ในการที่มีชื่อเสียงมาตั้งแต่ตอนยังเป็นเด็ก ทำให้เขาต้องแบกรับคำวิจารณ์จากสื่อมาโดยตลอด จนกลายมาเป็นภูมิต้านทานในวันที่เขาเติบโต ที่ทำให้เขาโนสนโนแคร์ในทุก ๆ เรื่องท และยังยืนหยัดในวิถีทางของตัวเขาเอง นั้นจึงทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นที่ทรงอิทธิพลทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตลอดชีวิตในเส้นทางของการค้าแข้ง
เป็นพี่ใหญ่ของน้อง ๆ
การมีอยู่ของ ซลาตัน ไม่ว่าเมื่อเขานั้นจะเข้าไปเล่นให้กับทีมใด ก็สร้างความชัดเจนให้เห็นแล้วว่าเขาอาจจะดูยโสโอหัง กล้าพูดกล้าทำ จนทำให้มีคนไม่มากไม่น้อยที่ไม่ชอบในตัว ซลาตัน แต่อีกมุมนั้นเขาก็มีความพยายามที่จะทำให้ตัวเป็นคนที่เก่งที่สุดอยู่เสมอ และบุคลิกเฉพาะตัวแบบนี้ ก็จำเป็นอย่างมากสำหรับหลายทีมในการกอบกู้วิกฤติหรือสร้างทีมให้แข็งแกร่งขึ้นได้ ซึ่ง สเตฟาโน ปิโอลี อดีตกุนซือของ เอซี มิลาน ในสมัยที่ตัว ซลาตันได้เข้ามาเป็นผู้เล่นให้กับทางสโมสรที่เขาคุ้มอยู่ตอนนั้น โดยกล่าวว่า “การมีตัวอย่างของความมุ่งมั่นและทะเยอทะยานอย่างที่อิบรามี ทำให้เราดีขึ้น ถ้าอิบราคือผู้เล่นที่มีคุณสมบัติของแชมเปียนและเป็นนักเตะที่มีเอกลักษณ์ นั่นเป็นเพราะเขามีความกระหายและอยากจะพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นอยู่เสมอ”