ป้ายกำกับ: บทความ

เรียกได้ว่าเป็นลีกฟุตบอลโลกที่เต็มไปด้วยความสนุก สุดมันส์ และเร้าใจแบบสุดๆ สมกับที่แฟนบอลทั่วโลกรอคอย อย่าง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2019/20 ท่ามกลางการขับเคี่ยวของ 20 ทีมชั้นนำแห่งเกาะอังกฤษ ตลอด 38 แมตช์ที่อัดแน่นจุใจทั้งฤดูกาล มั่นใจได้เลยว่า พรีเมียร์ลีก ยังคงตอบโจทย์คอลูกหนังไม่เปลี่ยน สภาพความพร้อมของลิเวอร์พูล นาทีนี้คงไม่มีทีมไหนจะสบายอกสบายใจเท่ากับ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล อีกแล้ว โดยลูกทีมของกุนซือเจอร์เกน คล็อปป์ ผูกเปลนอนจิบเครื่องดื่มแบบไร้กังวล เพราะพวกเขามีแต้มห่างอันดับสอง แมนฯ ซิตี้ ถึง 13 แต้ม แถมยังแข่งน้อยกว่าถึงสองนัด นี่ถ้าไม่ติดเรื่องทำสถิติลุ้นคว้าแชมป์แบบไร้พ่าย แข้งหงส์อาจจะแพ้เล่นๆแจกแต้มคู่แข่งสักนัดสองนัด เผื่อชีวิตจะได้มีสีสันอื่นบ้าง หลังจากเดินหน้าเก็บชัยชนะมาจนชาชินแล้ว ส่วนความพร้อมของทีม นาบี เกอิต้า, เจมส์ มิลเนอร์ ยังไม่หายเจ็บ หมดสิทธิลงช่วยที...

ย้อนดูสถิติการพบกัน ของ ลิเวอร์พูล ที่ดวลแข้งกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก่อนที่ทั้งคู่จะฟาดแข้งกัน เป็นฝั่ง "ปีศาจแดง" ที่ยังถือสถิติข่มอยู่ ศึกแดงเดือด และแล้ว "ศึกแดงเดือด" นัดที่สองของ ฤดูกาลนี้ก็มาถึงแล้ว และแมตช์นี้จะเป็น ลิเวอร์พูล ที่เปิดสนามแอนฟิลด์ รอต้อนรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งผลการแข่งขัน นัดแรกที่ทั้งคู่เจอกันในบ้านของ "ปีศาจแดง" นั้น ทั้งคู่เสมอกันไป 1-1 ซึ่งจากผลเสมอนี้ ทำให้จนถึงปัจจุบัน เป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมเดียวเท่านั้น ที่ยังไม่พ่ายแพ้ ต่อ ลิเวอร์พูล ในลีกซีซั่นนี้ และก่อนที่ทั้งคู่จะกลับมาดวลเดือดกันอีกครั้งใน "ศึกแดงเดือด" เราจึงรวบรวมสถิติ และตัวเลขต่างๆ ของทั้งสองทีม เป็นการเรียกน้ำย่อยกันก่อนที่จะลงฟาดแข้งจริง อันดับในตารางก่อนพบกัน ลิเวอร์พูล : อันดับ 1 แข่ง 21 / ชนะ 20 / เสมอ 1 / แพ้ 0 / 61 แต้ม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : อันดับ 5 แข่ง 22 / ...

สัปดาห์นี้ แมทช์แห่งศักดิ์ศรีที่ใครหลายคนรอคอยกำลังจะมาถึงอีกครั้ง นั่นคือศึกแดงเดือด "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เปิดรังแอนฟิลด์ ปะทะ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในคืนวันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม อย่างที่ทราบกันดีว่า นาทีนี้ ลิเวอร์พูลโชว์ฟอร์มได้น่าขนพองสยองเกล้าเหลือเกิน โดยก่อนลงสนาม ลูกทีมของกุนซือ เจอร์เกน คล็อปป์ นั่งกระดิกเท้าอยู่บนบัลลังก์จ่าฝูง ทิ้งห่าง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา และชาวคณะ ที่รั้งอันดับ 5 มากถึง 27 แต้ม แถมแข้งหงส์แข่งน้อยกว่า 1 นัด แน่นอนว่า สถานการณ์ตอนนี้ลิเวอร์พูลเหนือกว่าทุกประตูและหน้าต่าง ไม่ว่าจะเป็นฟอร์มการเล่น สภาพทีม การได้เล่นในบ้าน อีกทั้งนักเตะยังสดกว่าฝั่งแมนฯ ยูไนเต็ด ที่เพิ่งลงเตะเกมเอฟเอคัพ รอบ 3 นัดรีเพลย์ เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เรามักได้ยินเสมอว่า "อะไรก็เกิดขึ้นได้ในเกมฟุตบอล" ซึ่งนักเตะแมนฯ ยูไนเต็ดก็มี 11 คน 22 ขาอยู่ในสนามเหมือนกันยกเ...

เชื่อว่าตอนนี้ แฟนบอลจำนวนไม่น้อยกำลังเฝ้ารอคอยสุดยอดอภิมหาบิ๊กแมทช์แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อย่างเกม "แดงเดือด" ระหว่าง "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ซึ่งเตรียมเปิดสนามแอนฟิลด์ รอบรับการมาเยือนของ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในคืนวันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม ที่จะถึงนี้ แน่นอนว่า การเจอกันของ 2 ทีมคู่อรินี้เป็นที่สนใจของแฟนบอลทั่วโลก และที่ผ่านมา ก็มีเกมแดงเดือดหลายแมทช์ที่มีโมเมนต์สำคัญให้แฟนบอลได้จดจำมาจนถึงปัจจุบัน ดังเช่น 5 แมทช์ต่อไปนี้ ฟอร์มบู่ "มู" ตกงาน (ลิเวอร์พูล 3-1 แมนฯ ยูไนเต็ด) ถือเป็นเกมแดงเดือดที่เพิ่งผ่านไปเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งก่อนบุกไปเยือนลิเวอร์พูลในนัดนี้ ทัพปีศาจแดงอยู่ในช่วงฟอร์มกระท่อนกระแท่น อุณหภูมิเก้าอี้ของกุนซือ โชเซ่ มูรินโญ่ กำลังเดือดปุดๆ สุดท้ายสกอร์บอร์ดที่แอนฟิลด์จบลงด้วยชัยชนะแบบไม่ได้ยากเย็นอะไรนักของขุนพลหงส์แดง ด้วยสกอร์ 3-1 และหลังจากนั้นเพียงสองวันต่...

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับมาทำผลงานให้แฟนๆ ชื่นใจด้วยการเปิดรังโอลด์ แทรฟฟอร์ด ไล่ถลุง นอริช ซิตี้ ไปได้แบบขาดลอย 4-0 เก็บสามแต้มสำคัญ พร้อมทั้งยังมีลุ้นทำอันดับติดท็อปโฟร์ ลองไปดูประเด็นหลังเกมที่เกิดขึ้นในนัดนี้กัน 1. ความเป็นไปของเกม กลายเป็นเกมที่ ปีศาจแดง ไม่ได้เจอกับงานยากใดๆ เลยตั้งแต่เสียงนกหวีดออกสตาร์ทเมื่อทัพ นกขมิ้น ตั้งใจที่จะมาเล่นเกมรับเพื่อรอโอกาสสวนกลับซึ่งเกมเคาท์เตอร์ของทีมเยือนไม่สามารถจุดประกายจุดเปลี่ยนได้เลย โมเมนตัมที่เหนือกว่าของ แมนฯ ยูไนเต็ด ทำให้พวกเขาได้ประตูขึ้นนำตั้งแต่ครึ่งแรกจากการครอสที่แม่นยำของ ฆวน มาต้า ให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด เข้าชาร์จ ก่อนที่สกอร์จะไหลต่อเนื่องในครึ่งเวลาหลัง 2. มาต้า คืนชีพ 2 คีย์พาสจาก ฆวน มาต้า มิดฟิลด์ชาว สเปน ในวัย 31 ปี แปรเปลี่ยนเป็น 2 แอสซิสต์ได้จากการจบสกอร์ของ มาร์คัส แรชฟอร์ด และ อองโตนี มาร์กซิยาล กองกลางจอม...

ผ่านพ้นไปแล้วครึ่งทางสำหรับศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาลนี้ พร้อมกับปีปฏิทินที่กำลังจะเปลี่ยนจาก 2019 ไปเป็น 2020 ว่าแล้ว เรามาดูกันว่าแต่ละทีมโชว์ฟอร์มกันได้ดีมากน้อยแค่ไหน และทำผลงานออกมาได้อย่างที่ควรจะเป็นหรือเปล่า สุดยอดทีมช่วงครึ่งซีซั่นแรกต้องยกให้ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ซึ่งคงไม่ต้องบรรยายอะไรมากสำหรับความยอดเยี่ยมของกุนซือเจอร์เก้น คล็อปป์ และลูกทีม เพราะเชื่อว่าแฟนบอลทุกคนคงทราบดีถึงความร้อนแรงของพวกเขากันอยู่แล้ว แต่อีกหนึ่งทีมที่เรียกได้ว่าเซอร์ไพรส์สุดๆ คือ "ดาบคู่" เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ซึ่งเพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมา และไม่ได้มีแข้งสตาร์ดังประดับทีมเลย แต่สามารถโชว์ฟอร์มได้ดีเกินคาด โดยลูกทีมของกุนซือคริส ไวลเดอร์ รั้งอันดับ 8 ของตาราง มีแต้มห่างจากโซนไปเล่นฟุตบอลยุโรปเพียงแต้มเดียวเท่านั้น แม้ช่วงหลังฟอร์มจะแผ่วไปบ้าง แต่ถือว่า เลสเตอร์ทำผลงานได้ดีเกินคาด โดยรั้งตำแหน่งรอ...

"ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล นำก่อนตั้งแต่ 13 นาทีแรก แต่ต้านไม่ไหวโดน "สิงห์บลู" เชลซี บดหนักครึ่งหลังยิงแซง 2 ประตูรวด เก็บชัยได้หน้าตาเฉย แถมเดือดสมชื่อ "ลอนดอนดาร์บี้แมตช์" เมื่อมีการสังเวยใบเหลืองถึง 9 ใบ ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่แรก ประจำวันอาทิตย์ที่ 29 ธันวาคม "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล เปิดเอมิเรตส์ สเตเดี้ยมต้อนรับการมาเยือนของ "สิงห์บลู" เชลซีในศึก "ลอนดอนดาร์บี้แมตช์" โดยไฮไลท์อยู่ที่การคุมทีมนัดแรกในบ้านอย่างเป็นทางการของมิเกล อาร์เตต้าในฐานะกุนซือ เริ่มเกมมาทั้ง 2 ทีมก็เปิดเกมแลกกันสนุก โดยเฉพาะแดนกลางที่บดบี้กันอย่างสูสี นาทีที่ 6 เจ้าถิ่นได้ทักทายก่อนจากการจักรยานอากาศของดาวิด ลุยซ์ จากลูกเปิดมุมด้านขวาของเมซุต โอซิล แต่บอลผิดเหลี่ยมออกหลังไป นาทีที่ 9 ดาวิด ลุยซ์มีโอกาสซัดฟรีคิกระยะประมาณ 25 หลา แต่บอลยังตรงตัวเกป้ารับไว้สบายๆ จนกระทั่งนาทีที่ 13 ทีม อาร์เซน่อลก็มาได้ประตูขึ้...

"เปแอสเช" โทรสายตรงถึง "คล็อปป์" กว่าชั่วโมง ถกเรื่องคว้าตัวคุมทัพหลังจบฤดูกาลนี้ แต่ "คล็อปป์" ปฏิเสธทันควัน หลังจากที่ เลโอนาร์โด้ ผู้อำนวยการกีฬาของเปแอสเช ได้ประกาศจะนำเจอร์เกน คล็อปป์ มาเป็นกุนซือคนใหม่ในถิ่นปาร์ก เดอ แปรงส์ในฤดูกาลหน้า เพื่อเป้าหมายในการพาทีมเศรษฐีแห่งกรุงปารีสไปเถลิงแชมป์ฟุตบอลสโมสรยุโรปให้ได้ ล่าสุด มีรายงานว่า เจอร์เกน คล็อปป์ กุนซือของทีม "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ได้ตอบปฏิเสธการเชื้อเชิญครั้งนี้ของปารีส แซงต์ แชร์กแมงไปเรียบร้อยแล้ว หลังจากได้พูดคุยกับทางเลโอนาร์โด้เกือบ 1 ชั่วโมงเต็ม ซึ่งตามรายงานฝรั่งเศส เลโอนาร์โด้หวังอย่างมากที่จะได้ตัวคล็อปป์มาแทนที่โธมัส ทูเคิล กุนซือคนปัจจุบันที่ยังผลงานไม่เข้าตา โดยเป็นที่รู้กันว่าทีมมหาเศรษฐีแห่งกรุงปารีสผูกขาดแชมป์ในประเทศมาตลอดในช่วงหลัง แต่สิ่งที่บอร์ดบริหารคาดหวังคือการขยับก้าวขึ้นไปเป็นแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนล...

หลังจากสับไกส่งบอลเข้าไปกองสู่ก้นตาข่ายในช่วงต่อเวลานาทีที่ 99 ที่สนามคาลิฟา อินเตอร์เนชั่นแนล สเตเดี้ยม กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ ซึ่งเป็นประตูชัยให้ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ปลิดชีพ ฟลาเมงโก้ 1-0 กระชากโทรฟี่ศึกฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลกกลับไปประดับตู้โชว์ที่แอนฟิลด์ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ไม่เพียงแต่เสียงเฮของเดอะค็อปทั่วโลกจะดังสนั่นขึ้นพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย แต่แฟนบอลยังได้เห็นรอยสักทั่วร่างกายของเพชฌฆาตเลือดแซมบ้า โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ฉับพลันที่ซัลโวประตูอันล้ำค่านี้ได้ ฟีร์มิโน่ ระเบิดอารมณ์ด้วยการวิ่งแหกปากตะโกนลั่น พร้อมกับถอดเสื้อดีใจโดยไม่สนว่าจะโดนใบเหลืองจากผู้ตัดสินเป็นรางวัล และนั่นทำให้ชาวโลกได้เห็นสารพัดรอยสักที่มีความหมายมากมายต่อชีวิตของผู้ชายคนนี้ รอยสักแรกที่เห็นได้ชัดคือข้อความบริเวณกระดูกไหปลาร้า ซึ่งเป็นประโยคภาษากรีก มีความหมายว่า "พระเจ้าทรงซื่อสัตย์" นอกจาก...

รวมพลังโยนตุ๊กตาเพื่อเด็ก - แฟนบอล เรอัล เบติส พากันโยนตุ๊กตาสิงสาราสัตว์ ลงไปในสนามฟุตบอลนับพันตัว เพื่อมอบเป็นของขวัญคริสต์มาส และปีใหม่ให้แก่เด็กๆ กลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่นิยมไปทั่ววงการกีฬา เมื่อใกล้ช่วงเทศกาล แฟนๆ กีฬาจะนำเอาตุ๊กตาสัตว์ต่างๆ มาโยนลงไปในสนาม เพื่อบริจาคเป็นของเล่นไปมอบให้แก่เด็กๆ ล่าสุด ก่อนเกมลา ลีก้า สเปน นัดที่ เรอัล เบติส เปิดบ้านพบกับ แอตเลติโก มาดริด ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ปรากฏว่า แฟนบอลร่วม 5 หมื่นคน รวมพลังกันนำของเล่นประเภทตุ๊กตาสิงสาราสัตว์ นับพันตัวมาโยนลงไปในสนาม โดย ตุ๊กตาเหล่านี้ สโมสร เรอัล เบติส จะรวบรวมนำเอาไปแจกจ่ายให้เด็กๆ ตามโรงพยาบาลต่างๆ ตามชุมชน เพื่อเป็นของขวัญเป็นกำลังใจให้หนูน้อยได้ฉลองในช่วงเทศกาลคริสต์มาส รวมถึง ปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง ในส่วนของการโยนตุ๊กตา ล่าสุดเมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา มีการทำสถิติโลกเกิดขึ้น...