ก่อนแมตช์นี้จะเริ่มคงไม่มีใครคาดคิดว่า “หงส์แดง” จะพลาดท่าพ่ายเป็นครั้งแรกของพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ทว่ามันก็เกิดขึ้นแล้ว… คงต้องชมฝั่งเจ้าบ้าน วัตฟอร์ด ที่เกมนี้วางแผนมาอย่างดีและช่วยกันเล่นไม่ว่าจะเป็นแนวรับหรือแนวรุกต่างก็ท็อปฟอร์มด้วยกันหมด ผิดกับฝั่ง ลิเวอร์พูล ที่ถือเป็นวันที่ย่ำแย่ของจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกอย่างสิ้นเชิง เรารวบรวมประเด็นร้อนที่เกิดขึ้นมาให้อ่านเกม
1.แผงหลังหงส์พลาดหมด
เมื่อรายชื่อ 11 ตัวจริงเผยออกมา แฟนบอลพอจะเข้าใจได้ว่า คล็อปป์ เลือกจะพัก โจ โกเมซ แล้วใช้บริการของ เดยัน ลอฟเรน เนื่องจาก โกเมซ กรำศึกหนักมาอย่างต่อเนื่อง แต่คงไม่มีใครคิดว่าจะเสียหายถึงพ่ายแพ้ขนาดนี้ กลายเป็นว่าทั้งแผงหลังฟอร์มหลุดด้วยกันทั้งหมดโดยเฉพาะในรายของ ลอฟเรน ที่นอกจากจะยืนตำแหน่งผิดพลาดบ่อยแล้ว ยังทำให้เพื่อนร่วมทีมต้องเหนื่อยตามไปด้วย แน่นอนว่าเขาต้องรับผิดชอบกับประตูแรกที่เสียเพราะปล่อยบอลตกพื้นข้ามหัวและประตูที่สองก็ยืนตำแหน่งไม่ดีด้วย ขณะที่ ฟาน ไดค์ ก็ถือเป็นวันที่แย่สำหรับเขาเหมือนกันเพราะมีส่วนทำให้ทีมเสียทั้งสองประตูแรก
นอกจากนี้แบ็กทั้งสองข้างของลิเวอร์พูลยังหลุดฟอร์มด้วยกันทั้งคู่ ไม่ว่าจะเป็น เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ที่ออกอาการตั้งแต่ต้นเกมเพราะโดน เคราร์ด เดโลเฟว ปั่นป่วนหลายครั้ง รวมถึงยังเป็นคนส่งบอลคืนหลังพลาดจนเสียประตูอีก ขณะที่ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แม้จะมีดีเรื่องการเติมเกมรุกทว่าเกมรับเขาก็เข้าบอลพลาดจนเป็นที่มาของการเสียประตูที่สอง สรุปแล้วเกมนี้ถือเป็นเกมที่แย่สำหรับแนวรับหงส์แดงอย่างแท้จริง
2. ซาร์ซัดหาย !
แม้ วัตฟอร์ด จะเจอข่าวร้ายตั้งแต่ครึ่งแรกเพราะเสียแนวรุกตัวสำคัญอย่าง เคราร์ด เดโลเฟว ที่ได้รับบาดเจ็บที่บาดเจ็บจากการกระแทกกับ ฟาน ไดค์ ทว่า อิสไมล่า ซาร์ กลายมาเป็นพระเอกด้วยการเหมาสองประตู ต้องบอกว่าเป็นเกมที่เจ้าตัวขยับหาพื้นที่ได้ค่อนข้างดีตั้งแต่ประตูแรกที่เข้าฮอส และประตูที่สองที่ยืนอยู่ระหว่างสองเซนเตอร์แบ็กของหงส์แดง รวมถึงต้องชมการจบสกอร์ที่ชิพเหนือชั้นผ่าน อลิสซง เข้าประตู
สำหรับสถิติหลังเกมของเขานั้น สัมผัสบอล 45 ครั้ง แย่งบอล 8 ครั้ง โอกาสยิง 6 ครั้ง เลี้ยงผ่านคู่แข่ง 2 ครั้ง ยิง 2 ประตูกับอีก 1 แอสซิสต์ ไม่แปลกใจที่จะคว้า แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ในเกมนี้
3. สามประสานงานกร่อย
ในเดือนสิงหาคมปี 2017 ลิเวอร์พูล เปิดตัวสามแนวรุก ซาดิโอ มาเน่, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และโมฮาเหม็ด ซาลาห์ เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่วันนั้นพวกเขาทั้งสามถล่มตาข่ายรวมกันมาแล้วถึง 105 ประตูจาก 69 เกมที่ลงตัวจริงพร้อมกัน ปกติแล้วสามแนวรุกมักจะมีคนใดคนหนึ่งโดดเด่นขึ้นมาทดแทนฟอร์มที่หายไปของอีกคนหนึ่ง ทว่าในเกมพบ วัตฟอร์ด ทั้งสามพร้อมใจกันฟอร์มตกหมดเลยซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ยากเหลือเกิน โดยเฉพาะใน 45 นาทีแรกของเกม ลิเวอร์พูลมีโอกาสยิงประตูแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 2 ใน 172 เกมภายใต้การคุมทีมหงส์แดงของ เจอร์เก้น คล็อปป์
ด้าน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ มีเปอร์เซนต์การผ่านบอลแม่นยำแค่ 58% เท่านั้น ขณะที่ ฟีร์มีโน่ ก็ไม่ต่างกันนอกจากทำบอลเสียบ่อยครั้งแล้วยังไม่มีโอกาสยิงประตูเลย ส่วน มาเน่ นั้นแม้จะมีเปอร์เซนต์จ่ายบอลแม่นยำที่สุดในสามคนแต่เขาครอสบอลตลอดเกมครั้งเดียวและไม่มีโอกาสยิงประตูเลย นับเป็นวันที่สามประสานหมดสภาพอย่างแท้จริง
4. สถานกาณ์ลุ้นแชมป์-ตกชั้น
ชัยชนะครั้งนี้ของ วัตฟอร์ด ถือเป็นการคว้าสามแต้มที่สำคัญเป็นอย่างมากเพราะพวกเขาขยับจากอันดับที่ 19 ขึ้นมาอยู่ที่ 17 ซึ่งรอดพ้นจากโซนตกชั้นเป็นที่เรียบร้อย แม้แต้มเท่ากับทีมอันดับ 18 แต่พวกเขามีประตูได้เสียที่ดีกว่า กลายเป็นว่าตอนนี้โฉมหน้าของสามทีมในโซนตกชั้นได้แก่ บอร์นมัธ (27 แต้ม), แอสตัน วิลล่า (25 แต้ม) และนอริช ซิตี้ (21 แต้ม)ไม่แน่ว่าการโค่นจ่าฝูงนัดนี้อาจเป็นตัวจุดประกายสำคัญให้พวกเขารอดตกชั้นก็เป็นได้
ด้าน “หงส์แดง” นั้นความพ่ายแพ้เหมือนเป็นการยืดเวลาฉลองแชมป์ออกไปเท่านั้น จากเดิมที่หากคว้าชัยชนะเกมนี้ได้จะทำให้เหลือการคว้าชัยอีกเพียงแค่ 3 นัดเท่านั้น แต่ตอนนี้พวกเขาก็ยังต้องการชนะอีก 4 นัดเช่นเดิม แต่ประเด็นคือทีม “เร้ด แมชชีน” คงต้องฟื้นฟูสภาพจิตใจมาให้เร็วที่สุดเพราะนับตั้งแต่เบรกหนีหนาวมาพวกเขาหลุดฟอร์มมาหลายเกมแล้ว มาดูกันว่ากับ เชลซี ในเอฟเอ คัพ กลางสัปดาห์จะเรียกความมั่นใจได้หรือไม่
5. หยุดสถิติไร้พ่าย
หลังจากที่ ลิเวอร์พูล ชนะมา 18 เกมติดต่อกันในลีก พวกเขาก็หวังว่าเกมนี้จะทำลายสถิติคว้าชัยชนะติดต่อกันมากที่สุดในพรีเมียร์ลีกของ แมนฯซิตี้ (18 นัด) ลงให้ได้ทว่าสุดท้ายก็ต้องอกหักไปในที่สุด ขณะที่สถิติการไร้พ่าย 44 นัดในพรีเมียร์ลีกก็ต้องหยุดแค่นี้เช่นกันทำให้พวกเขาอยู่ในอันดับสองทีมที่ไร้พ่ายติดต่อกันนานที่สุดเป็นรองเพียงแค่ อาร์เซน่อล ซึ่งทำไร้พ่ายไว้ 49 นัด ปิดท้ายด้วยสถิติที่ หงส์แดง เสียประตูมากกว่าหนึ่งลูกติดต่อกันสองนัดในลีกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธันวาคมปี 2016
ติดตามข่าวสารฟุตบอลได้ที่ BUAK 20.com
สนับสนุนโดยเว็บไซค์ ฟุตบอลอันดับ1 ufa88s.com